ไคร่ายืนอยู่ข้างสนามซ้อมรบ ข้างเอนวินและไวดาร์ เสียงควบม้าดังแว่วมา เธอหันไปมอง มัลเทรนกำลังขี่ม้ามา ขนาบข้างด้วยเพื่อนทหารของเขา หายใจอย่างเหนื่อยหอบขณะที่ถือดาบอยู่ในมือ เขาเพิ่งฝึกซ้อมเสร็จ มองมาที่เธออย่างเหยียดหยัน เธอรู้สึกแกร็งท้องแน่น ในบรรดาของทหารของพ่อ มัลเทรนคือคนเดียวที่ไม่ชอบเธอ เขาเกลียดเธอด้วยเหตุผลบางอย่างตั้งแต่แรกเห็น
มัลเทรนนั่งอยู่บนม้าด้วยสีหน้าโกรธจัด พร้อมจมูกที่แบนและใบหน้าอันน่าเกลียด เขาคือชายที่ชื่นชอบความเกลียด และเขาดูเหมือนจะพบเป้าหมายอยู่ในตัวไคร่า เขามักคัดค้านเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่เสมอ บางทีอาจเป็นเพราะเธอคือเด็กผู้หญิง
“เด็กน้อย เจ้าควรกลับไปยังป้อมปราการของพ่อเจ้า” เขาพูด “เตรียมงานสำหรับการฉลองเหมือนกับเด็กคนอื่น เจ้าเด็กดื้อ”
เลโอส่งเสียงข่มขู่มัลเทรน ไคร่าวางมือลงบนหัวของมัน เพื่อให้มันถอยไป
“และหมาป่าตัวนั้น ทำไมถึงเข้ามาในสนามได้?” มัลเทรนเสริม
เอนวินและไวดาร์มองมัลเทรนอย่างเย็นชาและแข็งกระด้าง พวกเขาเข้าข้างไคร่า ไคร่ายึดมั่นอยู่ในที่ของเธอและยิ้มตอบ เธอรู้ว่าเธอได้รับการปกป้องและเขาไม่สามารถบังคับให้เธออกไปได้
“บางที่เจ้าควรกลับไปยังสนามซ้อม” เธอแย้งด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “และไม่ต้องมาสนแต่เรื่องเด็กดื้อที่เข้าออกไปมา”
มัลเทรนหน้าแดงก่ำ ไม่สามารถโต้ตอบได้ เขาหันหลังกลับ เตรียมควบม้าออกไป แต่เขาทิ้งทวนคำพูดให้กับเธอ
“วันนี้เป็นการใช้หอก” เขาพูด “เจ้าควรอยู่ให้ห่างจากลูกผู้ชายตัวจริงที่กำลังขว้างอาวุธจริง”
เขาควบม้าออกไปพร้อมกับคนอื่น ๆ เธอมองตาตาม ความสุขของเธอที่ได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ถูกทำลายโดยการปรากฏตัวของเขา
เอนวินมองเธออย่างห่วงใยและวางมือบนบ่าของเธอ
“บทเรียนแรกของนักรบ” เขาพูด “คือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนที่เกลียดเจ้า ไม่ว่าจะเจ้าชอบหรือไม่ เจ้าจะพบว่าตัวเองกำลังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา พึ่งพาพวกเขาเพื่อชีวิตของเจ้า บ่อยครั้งศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเจ้าไม่ได้มาจากภายนอก แต่มันมาจากภายใน”
“และสำหรับผู้ที่ไม่สามารถต่อสู้ ก็ได้แต่พล่าม” อีกเสียงพูดออกมา
ไคร่าหันกลับไป อัทฟาเอลกำลังเดินยิ้มใกล้เข้ามา เข้าข้างเธออย่างรวดเร็วเช่นทุกครั้ง เหมือนกับเอนวินและไวดาร์ อัทฟาเอลเป็นนักรบดุดันร่างสูง หัวล้านและหนวดเคราสีดำยาว เขามักอ่อนโยนกับเธอ เขาคือหนึ่งในนักดาบผู้เก่งกาจที่สุด ยากที่จะเอาชนะ และเขายืนขึ้นเพื่อเธอเสมอ เธอรู้สึกสบายใจกับการปรากฏตัวของเขา
“มันก็แค่การโอ้อวด” อัทฟาเอลเสริม “ถ้ามัลเทรนเป็นนักรบที่ดีกว่านี้ เขาจะกังวลเรื่องตัวเองแทนเรื่องคนอื่น”
เอนวิน ไวดาร์ และอัทฟาเอลขึ้นขี่ม้าของพวกเขาควบออกไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ไคร่ายืนอยู่ที่นั่น กำลังมองพวกเขา คิดทบทวน ทำไมบางคนถึงเกลียดเธอ? เธอสงสัย เธอไม่รู้ว่าจะสามารถเข้าใจได้อย่างไร
พวกเขาควบม้าไปทั่วสนาม แข่งขันกันเป็นวงกว้าง ไคร่าศึกษาการสู้รบบนหลังม้าอย่างตื่นเต้น เธอหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะมีม้าเป็นของตัวเอง เธอมองเหล่าทหารที่อยู่ในสนาม ขี่ม้าไปตามแนวกำแพงหิน ม้าของพวกเขาลื่นล้มบนหิมะเป็นครั้งคราว เหล่าทหารจับหอกที่ผู้รับใช้นักรบยื่นมาให้ พวกเขาวนไปรอบ ๆ และขว้างหอกไปยังเป้าหมายระยะที่อยู่ในไกล โล่ที่แขวนไว้กับกิ่งไม้ หอกพุ่งเข้าเป้า ตามด้วยเสียงโลหะกระทบกัน
การขว้างหอกในขณะกำลังควบม้าทำได้ยาก ทหารหลายคนพลาดเป้า โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเล็งไปยังโล่ที่เล็กกว่า ส่วนคนที่ปาเข้าเป้าก็มีเพียงน้อยนิดที่จะโดนกลางเป้า ยกเว้นเอนวิน ไวดาร์ อัทฟาเอล และอีกสองสามคน เธอสังเกตเห็นมัลเทรนพลาดเป้าไปหลายครั้ง เขาสบถภายใต้ลมหายใจและจ้องมาที่เธอ ราวกับว่าจะโทษว่าเป็นความผิดเธอ
ไคร่าต้องการอบอุ่นร่างกาย เธอจึงดึงไม้เท้าออกมา ใช้มือหมุนควงขึ้นเหนือศีรษะ หมุนรอบตัวไปมาราวกับว่ามันมีชีวิต เธอแทงไปยังศัตรูที่อยู่ในจินตนาการ ปัดป้องลูกธนู สลับมืออย่างว่องไว ควงไม้เท้าขึ้นไปที่คอ รอบเอว ราวกับว่าไม้เท้าเป็นมือที่สามของเธอ ไม้ของเธอสึกหรอไปตามเวลาการใช้งาน
ในขณะที่พวกทหารล้อมวงกันอยู่ที่สนาม ไคร่าวิ่งออกไปยังสนามขนาดเล็กของเธอ พื้นที่เล็ก ๆ ของสนามซ้อมรบที่ไม่มีใครใช้งาน แต่เป็นมุมที่เธอชื่นชอบมากที่สุด ชิ้นส่วนของชุดเกราะถูกผูกกับเชือกห้อยโตงเตงจากต้นไม้ กระจายไปตามความสูงระดับต่าง ๆ ไคร่าวิ่งไปและคิดว่าแต่ละเป้าหมายคือศัตรู โจมตีทุกเป้าหมายด้วยไม้เท้าของเธอ เสียงกระทบของไม้ดังระรัว เธอวิ่งไปรอบ ๆ พ่วงลีลาการฟาดฟัน กวัดแกว่ง และก้มหลบเมื่อมันเหวี่ยงกลับมาหาเธอ เธอจินตนาการว่านี่คือการโจมตีและป้องกันอย่างเฉิดฉาย กำราบกองทัพของศัตรูได้อย่างราบคาบ
“ฆ่าใครได้หรือยัง?” เสียงเยาะเย้ยดังขึ้น
ไคร่าหันกลับมา มัลเทรนอยู่บนม้าของเขา กำลังหัวเราะเย้ยหยันเธอ ก่อนที่จะขี่ม้าออกไป เธอโกรธเคือง หวังว่าจะมีใครสักคนฉีกหน้าเขาได้บ้าง
ไคร่าหยุดพักเมื่อเธอเห็นกลุ่มทหารฝึกซ้อมกับหอกเสร็จแล้ว พวกเขาลงจากม้าและล้อมกันอยู่ตรงกลาง คนรับใช้ของพวกเขารีบเข้ามาและยื่นดาบไม้สำหรับการฝึก ดาบที่ทำมาจากไม้โอ๊คหนา น้ำหนักเกือบเท่าเหล็ก ไคร่าคอยมองจากด้านนอก หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น เมื่อเหล่าทหารเตรียมพร้อมต่อสู้ เธอต้องการเข้าร่วมกับพวกเขาอย่างที่สุด
ก่อนที่จะเริ่มต้น เอนวินก้าวมาตรงกลางและมองหน้าพวกเขาทั้งหมด
“ในวันหยุดนี้ เราฝึกเพื่อรางวัลพิเศษ” เขาประกาศ “ผู้ชนะจะได้เลือกส่วนแบ่งอาหารในงานฉลอง!”
เสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นตามมา พวกเขาเข้าปะทะซึ่งกันและกัน เสียงดาบไม้กระทบดังไปทั่วสนาม พวกเขาต่อสู้กันจนหลังติดกำแพงป้อม
การฝึกซ้อมถูกคั่นจังหวะด้วยเสียงแตร ที่ส่งเสียงขึ้นทุกครั้งเมื่อนักสู้ถูกตีเข้าเป้า และบีบอีกฝ่ายออกไปข้างสนาม เสียงแตรดังบ่อยขึ้นจนคนที่เหลืออยู่เริ่มน้อยลง พวกเขายืนดูและเฝ้ามองข้างสนาม
ไคร่ายืนอยู่ข้างพวกเขา เธออยากเข้าร่วม แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับอนุญาต วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุสิบห้าปีของเธอ เธอรู้สึกว่าเธอพร้อมแล้ว เธอรู้สึกว่ามันคือเวลาที่เธอจะแสดงตัว
“ให้ข้าเข้าร่วมด้วยนะ!” เธออ้อนวอนเอนวินที่กำลังยืนดูอยู่ใกล้ ๆ
เอนวินส่ายหัวโดยไม่ละสายตาจากการประลอง
“วันนี้ข้าอายุครบสิบห้าปี!” เธอยืนกราน “ให้ข้าต่อสู้เถอะ!”
เขาจ้องมองมาที่เธออย่างสงสัย
“นี่มันสถานที่ฝึกสำหรับผู้ชาย” เสียงแทรกจากมัลเทรน เขายืนอยู่ด้านข้างหลังจากพ่ายแพ้ “ไม่ใช่สถานที่สำหรับเด็กสาว เจ้าสามารถนั่งดูกับพวกคนรับใช้ และเอาน้ำมาให้เราถ้าเราต้องการ”
ไคร่าหน้าแดงก่ำ
“เจ้ากลัวว่าเด็กผู้หญิงจะล้มเจ้างั้นหรือ?” เธอโต้ตอบ ยืนยันคำพูดของเธอ รู้สึกได้ถึงความโกรธ เธอคือลูกสาวของพ่อ เหนือสิ่งอื่นใดไม่มีใครสามารถพูดแบบนั้นกับเธอได้
ผู้ชายบางคนหัวเราะ และครั้งนี้มัลเทรนหน้าแดง
“เธอมีเหตุผล” ไวดาร์แทรกขึ้นมา “บางทีเราควรให้เธอเข้าร่วม ไม่มีอะไรจะเสียนี่ จริงไหม?”
“สู้ด้วยอะไรล่ะ?” มัลเทรนแย้ง
“ไม้เท้าของข้า!” ไคร่าตะโกนออกมา “กับดาบไม้ของเจ้า”
มัลเทรนหัวเราะ
“นั่นคงเหนื่อยเปล่า” เขาพูด
สายตาทั้งหมดจับจ้องเอนวิน เขายืนอยู่ที่นั่น กำลังตัดสินใจ
“ถ้าเจ้าเจ็บตัว พ่อของเจ้าจะฆ่าข้า” เขาพูด
“ข้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บหรอก” เธอขอร้อง
เขายืนอยู่ที่นั่นราวกับเวลาหยุดนิ่ง และถอนหายใจออกมาในที่สุด
“ข้าไม่เห็นว่าจะมีอันตราย” เขาพูด “เมื่อไม่มีอะไรทำให้เจ้าเงียบได้ และตราบเท่าที่ชายเหล่านี้ไม่คัดค้าน” เขาเสริม พร้อมหันไปทางเหล่าทหาร
“ตกลง!” ทหารตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียว ทั้งหมดเอาใจช่วยเธอ ไคร่ารักพวกเขามาก พวกเขาแสดงความชื่นชมต่อเธอ พวกเขาแสดงความรักในแบบที่มีต่อพ่อของเธอ เธอไม่มีเพื่อนมากนัก และพวกผู้ชายเหล่านี้มีความหมายต่อเธอมาก
มัลเทรนเยาะเย้ย
“งั้นก็ให้เด็กผู้หญิงมาทำอะไรโง่ ๆ ด้วยตัวเองแล้วกัน” เขาพูด “ความแข็งแกร่งจะสอนบทเรียนให้เธอในคราวเดียว”
เสียงแตรดังขึ้น ผู้ชายอีกคนออกจากวงล้อม ไคร่าวิ่งเข้ามา
ไคร่ารับรู้ได้ถึงสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมองเธอในฐานะผู้ชาย เธอไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้ เธอพบว่าตัวเธอเองกำลังเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ ชายรูปร่างสูง อายุราวสามสิบ นักรบทรงพลังที่เธอรู้จักตั้งแต่พ่อของเธอเข้ารับตำแหน่ง จากการสังเกตเขา เธอรู้ว่าเขาเป็นนักต่อสู้ที่ดี แต่เขามั่นใจตัวเองเกินไป พุ่งตัวเข้าใส่ทุกครั้งที่เริ่มต้นสู้ ดูจะประมาทไปเล็กน้อย
เขาหันมาหาเอนวินอย่างหน้าบึ้ง
“นี่คิดจะหยามอะไรข้า?” เขาถาม “ข้าไม่สู้เด็กผู้หญิง”
“เจ้าหยามตัวเจ้าเองโดยการกลัวที่จะสู้กับข้า” ไคร่าตอบอย่างองอาจ “ข้ามีสองมือและสองขาเช่นเจ้า ถ้าเจ้าไม่สู้กับข้า เจ้าก็จงยอมรับความพ่ายแพ้”
เขากระพริบตาอย่างตกใจ และถลึงตาใส่
“เอางั้นก็ได้” เขาพูด “อย่าวิ่งหนีไปหาพ่อเจ้าหลังจากแพ้แล้วกัน”
เขาพุ่งตัวด้วยความรวดเร็ว อย่างที่เธอรู้ว่าเขาจะทำ เขายกดาบไม้ขึ้นสูงและตรงเข้ามา เล็งไปที่ไหล่เธอ มันคือการเคลื่อนไหวที่เธอคาดคิด เธอเห็นเขาทำแบบนี้หลายครั้งหลายครา การเคลื่อนไหวแขนของเขาที่ดูงุ่มง่าม ดาบไม้ของเขาทรงพลัง แต่มันหนักเกินไป และดูเก้งก้างเมื่อเทียบกับไม้เท้าของเธอ
ไคร่ามองท่วงท่าของเขาอย่างละเอียด รอจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย เธอหลบตัวออก ปล่อยให้การโจมตีอันหนักหน่วงผ่านไปด้านข้าง ในการเคลื่อนไหวเดียวกัน เธอเหวี่ยงไม้เท้าออกไปรอบ ๆ และตีลงบนไหล่ของเขาด้านข้าง
เขาร้องโหยหวน เดินโซเซออกไปด้านข้าง เขายืนตะลึงอย่างรำคาญใจ จำต้องยอมรับต่อความพ่ายแพ้
“มีใครอีกไหม?” ไคร่าถาม ยิ้มกว้าง และมองไปยังกลุ่มทหาร
เหล่าทหารยิ้มอย่างภูมิใจในตัวเธอ ภูมิใจกับการเฝ้าดูเธอเติบโตจนถึงจุดนี้ ยกเว้นมัลเทรนที่กำลังคิ้วขมวดอยู่ข้างหลัง เขาดูราวกับว่ากำลังจะท้าทายเธอ ทันใดนั้นทหารอีกคนแสดงตัวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง ชายคนนี้ตัวเตี้ยและกว้างกว่า หนวดเคราสีแดงรุงรังและแววตาดุร้าย วิธีการถือดาบของเขาดูออกว่าเขาระวังตัวมากกว่าคู่ต่อสู้คนแรก เธอถือว่านั่นเป็นการยกย่อง ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มเอาจริงกับเธอ
เขาพุ่งเข้ามา และไคร่าไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง การที่รู้ว่าต้องทำอะไรเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอ เหมือนสัญชาตญาณในตัวได้ตื่นขึ้นครอบงำเธอ เธอพบว่าตัวของเธอเบาและคล่องแคล่วขึ้น มากกว่าพวกผู้ชายเหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดกำลังต่อสู้ด้วยพละกำลัง พร้อมดาบไม้ เกราะที่หนักและหนา พวกเขาคาดว่าคู่ต่อสู้จะท้าดวลและป้องกันการโจมตี ไคร่ารู้สึกมีความสุขกับการหลบหลีก และหลีกเลี่ยงที่จะต่อสู้ตามเงื่อนไขของพวกเขา พวกเขาสู้ด้วยกำลัง แต่เธอสู้ด้วยความเร็ว
ไม้เท้าของไคร่าเคลื่อนไหวอยู่ในมือเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ยื่นออกมา เธอควงไม้เท้าอย่างรวดเร็ว จนคู่ต่อสู้ของเธอไม่ทันตอบโต้ เขายังอยู่ในระยะครึ่งทางของการเหวี่ยงดาบในขณะที่เธอยืนอยู่ข้างหลังของเขาเรียบร้อยแล้ว คู่ต่อสู้คนใหม่เล็งเป้ามาที่ช่วงอกของเธอ แต่เธอเพียงแค่หลบออกด้านข้าง เหวี่ยงไม้เท้าขึ้นแล้วตีไปที่ข้อมือของเขา ทำให้ดาบของเขาหลุดออกจากมือ จากนั้นเธอตวัดส่วนปลายของไม้เท้ากลับมาและฟาดลงไปที่หัวของเขา
เสียงแตรดังขึ้น คะแนนเป็นของเธอ เขามองมาที่เธอด้วยความตกใจ พลางกุมหน้าผากของเขา ดาบของเขาอยู่บนพื้น ไคร่าตรวจสอบผลงานของเธอ เธอยังคงยืนอยู่ รู้สึกตกใจกับตัวเองเล็กน้อย
ไคร่ากลายเป็นผู้ชนะ ตอนนี้เหล่าผู้ชายต่างไม่ลังเลที่จะต่อแถวเพื่อประลองทักษะของพวกเขากับเธอ
พายุหิมะพัดโหมอย่างหนักหน่วง สาดใส่คบไฟที่ถูกจุดไว้ในยามค่ำคืน ไคร่าดวลการต่อสู้กับผู้ชายคนแล้วคนเล่า พวกเขาไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว สีหน้าของพวกเขาทั้งหมดดูจริงจังอย่างเอาเป็นเอาตาย และรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีใครสามารถแตะต้องเธอได้เลย แต่ละคนจบลงที่การพ่ายแพ้ ในการต่อสู้หนึ่ง เธอกระโดดข้ามหัวของเขาขณะที่เขากำลังแทงดาบเข้ามา เธอหมุนตัวและร่อนลงข้างหลังก่อนที่จะฟาดไม้ลงบนไหล่ของเขา ส่วนอีกคน เธอก้มลงและกลิ้งตัว สลับไม้เท้าในมือและโจมตีเข้าไปอย่างแม่นยำ อย่างไม่คาดคิด ด้วยมือซ้ายของเธอ การเคลื่อนไหวของเธอแต่ละท่านั้นแตกต่างกัน บ้างเป็นท่ากายกรรม บ้างเป็นท่านักดาบ ไม่มีใครคิดไว้ว่าเธอจะทำได้เช่นนี้ พวกเขาต่างเดินออกไปด้านข้างสนามอย่างอับอาย แต่ละคนรู้สึกตกตะลึงที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้
ในไม่ช้าก็เหลือเพียงพวกผู้ชายหยิบมือหนึ่ง ไคร่ายืนตรงกลางของวงล้อม หายใจเหนื่อยหอบ มองดูแต่ละทิศทางเพื่อหาคู่ต่อสู้คนถัดไป เอนวิน ไวดาร์และอัทฟาเอลมองเธอจากด้านข้าง ทั้งหมดมองมาด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้า มองดูอย่างชื่นชม ถ้าพ่อของเธอไม่สามารถมาที่นี่ อย่างน้อยก็ยังมีคนเหล่านี้ที่ภูมิใจในตัวเธอ
ไคร่าจัดการคู่ต่อสู้ได้อีกคนหนึ่ง ด้วยการโจมตีไปด้านหลังหัวเข่า เสียงแตรดังขึ้นอีกครั้ง ในที่สุด เมื่อไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว มัลเทรนก้าวเข้ามาในวงล้อม
“ไม้เด็กเล่น” เขาถ่มน้ำลายออกมา เดินตรงมาที่เธอ “เจ้าสามารถหมุนแท่งไม้ไปรอบตัวในการต่อสู้ นั่นจะไม่ส่งผลดีกับเจ้า เมื่อเจอกับดาบของจริง ไม้เท้าของเจ้าจะถูกตัดเป็นสองท่อน”
“งั้นหรือ แล้วยังไง?” เธอถามเสียงห้าว ไร้ความกลัว รู้สึกถึงเลือดของพ่อของเธอที่กำลังไหลเวียนอยู่ภายในตัว เธอรู้ว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับการรังแกนี้มาตลอด โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้ที่กำลังมองมาที่เธอ
“แล้วทำไมเจ้าไม่ลองดูล่ะ?” เธอยุแหย่
มัลเทรนกระพริบตากลับด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้ จากนั้นเขาหรี่ตาลง
“ทำไม?” เขาตะโกนกลับมา “เจ้าจะได้วิ่งกลับไปหาพ่อเจ้างั้นรึ?”
“ข้าไม่ต้องการความคุ้มครองจากพ่อของข้า หรือใครก็ตามแต่” เธอตอบ “เรื่องนี้เกี่ยวข้องระหว่างเจ้าและข้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
มัลเทรนมองไปที่เอนวิน เขาดูไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับว่าเขาติดอยู่ในหลุมที่ไม่สามารถออกไปได้
เอนวินมองกลับมา รู้สึกกระวนกระใจพอ ๆ กัน
“ที่นี่เราทำการประลองด้วยดาบไม้” เขาตะโกนออกมา “ข้าจะไม่ยอมให้ใครได้รับบาดเจ็บภายใต้การดูแลของข้า…รวมถึงลูกสาวของผู้บังคับบัญชา”
Бесплатно
Установите приложение, чтобы читать эту книгу бесплатно
О проекте
О подписке